คนไทยได้รับการสอนสั่งมาจากรุ่นสู่รุ่นว่าหากจะเข้าครัวทำกับข้าวครั้งใด ต้องล้างทำความสะอาดวัตถุดิบก่อนปรุงเสมอ โดยเฉพาะพืชผักทั้งหลาย เพราะกระแสข่าวเรื่องสารเคมีตกค้างในพืชผักนั้นมาแรงมากๆ จึงไม่แปลกที่หลายบ้านจะต้องมีตัวช่วยอย่างด่างทับทิมไว้ติดครัว แต่รู้ไหมคะว่า หากใช้ด่างทับทิมในปริมาณที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารได้เหมือนกัน
ถ้าอย่างนั้นลองมาดู 4 วิธีล้างผักที่ KC Fresh หามาฝากกันซะหน่อยเป็นไง รับรองว่าล้างได้สะอาดและปลอดภัยแน่นอนค่ะ
ล้างผักด้วยน้ำเปล่า : เรียกได้ว่าเป็นวิธีล้างผักที่สุดแสนจะเบสิค และไม่ต้องมีตัวช่วยอะไรเพิ่มเติม แค่มีน้ำและเวลาให้กับการล้างซะหน่อย โดยเริ่มต้นที่การเด็ดผักออกเป็นใบๆ นำไปแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านใบและเริ่มใช้นิ้วขัดถูให้ทั่วทั้งด้านหน้าและหลังให้ทั่วและครบทุกใบ จากนั้นแช่น้ำเปล่าต่ออีกสัก 5 นาที จึงนำขึ้นสะเด็ดน้ำและเตรียมปรุงอาหารได้เลย
อ้อ...น้ำที่แช่ผักแล้ว ยังสามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ได้อยู่นะคะ
น้ำซาวข้าวอย่าทิ้ง : เคยได้ยินคุณสมบัติของน้ำซาวข้าวมาก็มาก ทั้งในเรื่องที่ช่วยทำให้มือนุ่ม แก้อาการคันศีรษะ รวมถึงการขจัดคราบมันบนภาชนะต่างๆ แต่อีกหนึ่งประโยชน์คือ ช่วยจัดการสารพิษที่ตกค้างตามใบและเปลือกของผักผลไม้ ซึ่งวิธีการใช้น้ำซาวข้าวล้างผักคือ นำผักมาแช่ในน้ำซาวข้าวน้ำที่ 2 สัก 10-15 นาที แล้วจึงล้างซ้ำด้วยน้ำเปล่าอีกสักรอบก็ช่วยลดปริมาณสารพิษได้เพียบ
สงสัยไหมคะว่า ทำไมไม่ใช้น้ำซาวข้าวครั้งแรก นั่นเพราะในน้ำครั้งแรกอาจจะยังมีสิ่งสกปรกเจือปนอยู่ยังไงละค่ะ
น้ำผสมเกลือก็ใช้ได้ : “เกลือ” ของดีติดครัวอีกอย่างก็สามารถนำมาล้างผักผลไม้ได้เช่นกัน โดยผสมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แล้วนำผักลงแช่สัก 2 นาที ก่อนจะนำขึ้นมาและใช้นิ้วมือขัดถูอีกครั้ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการล้างด้วยน้ำเปล่าอีกรอบก็จะช่วยให้ยาฆ่าแมลงหลุดออกจากผักผลไม้ง่ายขึ้น เพราะยาฆ่าแมลงส่วนใหญ่มีองค์ประกอบเป็นน้ำมันและสารออกฤทธิ์ ซึ่งเกลือจะช่วยให้สารประกอบนี้แตกตัวออกจากกัน และทำให้ลดศักยภาพของยาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่
ข้อควรระวังคือ หากเลือกใช้เกลือต้องไม่ผสมเกลือมากเกินไปนะคะ เพราะเดี๋ยวผักจะมีรสเค็มเคลือบได้
ใช้น้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู : อย่าเพิ่งเมินหน้าเพียงเพราะกลิ่นฉุนของน้ำส้มสายชูเลยนะคะ เพราะมีการศึกษามาแล้วว่า น้ำส้มสายชูช่วยฆ่าแบคทีเรียและสารเคลือบผิวที่พบมากในผลไม้อย่างผิวแอปเปิ้ลได้มากถึง 98% จึงเป็นที่ยอมรับว่า น้ำส้มสายชูคืออีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถนำมาใช้ในการล้างผักและผลไม้ได้ โดยใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 3 ถ้วย แล้วนำผักหรือผลไม้ลงไปแช่ 5-10 นาที
วิธีนี้ดีก็จริง แต่อาจทิ้งกลิ่นเปรี้ยวอยู่บ้าง รวมถึงผักบางชนิดอาจดูดรสเปรี้ยวติดมาทำให้รสชาติเพี้ยนไปบ้าง ก็ขอแนะนำให้แช่น้ำเปล่าต่ออีกสักหน่อย ก็จะช่วยขจัดกลิ้นและรสเปรี้ยวออกไปได้ค่ะ
แต่ถ้าเหนื่อยหน่ายกับขั้นตอนการล้างผักแล้วละก็ ขอแนะนำให้สังเกตที่บรรจุภัณฑ์ของแต่ละยี่ห้อว่ามีระบุการการันตีในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของผักหรือไม่ ซึ่งถ้ามีระบุว่า “ปลอดภัย (Safe)” “ผ่านการล้างและตัดแต่ง (Washed & Trimmed)” รวมถึง “สอบกลับได้ (Traceability System)” ก็มั่นใจได้เลยว่า เมื่อผักถุงนั้นปลอดภัยแน่ ไปถึงบ้านเมื่อไหร่ คุณสามารถแกะจากบรรจุภัณฑ์มาปรุงอาหารได้เลย