ตัวเลขจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม พ.ศ.2548 – 2568 มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า อัตราการเพิ่มประชากรลดลงไปจนต่ำกว่าศูนย์หรือติดลบ ทำให้จำนวนประชากรไทยใกล้จะถึงจุดคงตัวแล้วที่ประมาณ 65 ล้านคนในแต่ละปี นั่นแปลว่าอายุของคนไทยยืนยาวขึ้น และประชากรสูงอายุจะมากขึ้นถึง 25% ในเวลาเพียง 30 ปีข้างหน้า (ข้อมูล : https://www.thebangkokinsight.com/)
เมื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแล้ว สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ โรคที่มาพร้อมอายุที่มากขึ้น อย่าง “โรคข้อเข่าเสื่อม” (Knee Osteoarthritis) ซึ่งแม้จะหลีกเลี่ยงโรคนี้ได้ยาก เพราะเป็นลักษณะการเสื่อมไปตามวัย แต่สามารถเตรียมตัวรับมือและดูแลตัวเองได้ นั่นคือ หมั่นดูแลและบำรุงข้อเข่าเพื่อยืดอายุการใช้งานและถนอมหัวเข่าให้มากที่สุด
นอกจากการดูแลและบำรุงข้อแล้ว ใช้งานให้ถูกวิธี หมั่นออกกำลังกาย ยังต้องมาพร้อมการกินอาหารบำรุงข้อเข่าที่เหมาะสม ซึ่งหากว่าคุณกำลังมองหาเมนูผักบำรุงข้อเข่าอยู่ล่ะก็ KC Fresh มีข้อมูลจาก https://www.orthogate.org/ มาฝากค่ะ
ผักในกลุ่มที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจมีส่วนทำลายข้อต่อกระดูกต่างๆ เช่น แครอท สาระแหน่ ปวยเล้ง ใบยอ ยอดแค ผักโขม ผักกระเฉด รวมถึงแครอท กะหล่ำปลีสีม่วง ข้าวโพดและฟักทองสีเหลือง
ผักที่มีสารกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ เช่น เควอซีทีน (Quercetin) และแอนโทไซยานิดิน (Anthocyanidins) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบคล้ายแอสไพริน ไม่ว่าจะเป็นหัวหอม มะเขือเทศ ชาเขียว ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินซี สร้างความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อ ทำให้ผนังหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอยแข็งแรง ลดโอกาสเกิดการฟกช้ำ บวม
ผักที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนได้ด้วย โดยแคลเซี่ยมจะทำงานร่วมกับโปรตีนในการสร้างกระดูก เช่น คะน้า บล็อกเคอรี่ ผักโขม งาดำ งาขาว รวมถึง วอเตอร์เครส ที่ว่ากันว่าในปริมาณ 100 กรัม มีแคลเซียมถึง 120 มิลลิกรัม ซึ่งแคลเซียมจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง บำรุงเส้นเอ็น วอเตอร์เครสยังช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
ผักที่มีคอลาเจน อย่างมะเขือเทศที่ให้มากกว่าผิวสวย เพราะมะเขือเทศคือแหล่งของคอลลาเจน ที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมข้อต่อกระดูกอ่อนต่างๆ ได้ไม่มากก็น้อย
ผักที่มีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ถั่วฝัก โดยเฉพาะถั่วเลนทิลที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดถั่วที่ช่วยป้องกันโรคกระดูกเสื่อม นอกจากนี้ถั่วยังเป็นแหล่งของโฟเลตซึ่งนอกจากจะมีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษากระดูกอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี “ขิง” ที่ถูกยกให้เป็นสมุนไพรช่วยลดอาการปวดเข่า เพราะมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบตามข้อและความร้อนจากขิงยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี รวมถึง “ผักตระกูลกะหล่ำ” และ “ถั่วงอก” ที่มีไฟเบอร์ วิตามินบี6 โฟเลต ธาตุเหล็ก ธาตุแมงกานีส และธาตุที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรงอย่างแมกนีเซียม ฟอสฟอรัสและแคลเซียม อีกทั้งยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยลดความดันโลหิตเช่นกัน
ลองเลือกเมนูที่ชอบหรือนำไปปรับใช้กับเมนูประจำวันกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อข้อเข่าที่ดีในวันหน้านะคะ