“อยากขาวต้องกินกลูตา” หลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ ดังนั้นไม่ว่าใครที่อยากขาว จึงพยายามสรรหาทั้งอาหารเสริมที่ช่วยให้ขาวดังใจมากิน เพื่อหวังจะเพิ่มกลูตาไธโอนให้กับร่างกาย แต่เคยรู้ไหมคะว่า จริงๆ แล้วกลูตาไธโอนให้มากกว่าความขาว และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องกินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็ได้ เพราะร่างกายสร้างได้เอง ประกอบกับผักที่อยู่รอบตัวบางชนิดก็ช่วยเติมกลูตาไธโอนได้
แต่ก่อนที่จะไปรู้ว่าผักอะไรที่มีกลูตาไธโอนอยู่บ้าง มาทำความรู้จักกับ กลูต้าไธโอนให้ลึกซึ้งกันก่อน “กลูตาไธโอน (L-Glutathione) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยกรดอมิโนที่สำคัญ 3 ชนิด คือ ซิสเตอิน (Cystein) ไกลซิน (Glycine) และ กลูตาเมท (Glutamate) ซึ่งเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายสามารถผลิตได้เอง โดยถูกผลิตมากที่สุดที่ตับ ปอด ไต ม้าม ตับอ่อน และเลนส์แก้วตา ซึ่งกลูตาไธโอนนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ปกป้องเซลล์ให้แข็งแรง ช่วยการไหลเวียนของระบบเลือด รักษาการทำงานของหัวใจและปอด ช่วยชะลออายุของเซลล์ทุกเซลล์ และยังชะลอความเสื่อมโทรมของอวัยะวะทุกส่วนในร่างกาย แถมยังช่วยขจัดสารพิษโดยเปลี่ยนสารพิษที่ไม่ละลายน้ำเป็นสารที่ละลายน้ำและกำจัดออกทางไตหรือทางลำไส้ ดังนั้นตับและไตซึ่งเป็นอวัยวะที่มีของเสียและสารพิษสะสมมากที่สุด จึงพบกลูตาไธโอนถูกผลิตออกมามากที่สุดเช่นกัน
นอกจากนี้ สารกลูตาไธโอนยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย โดยจะไปทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ทั้งไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งเซลล์มะเร็ง ซึ่งกลูต้าไธโอนในธรรมชาติที่พบในผักนั้น จะพบมากในผัก 5 ชนิด ต่อไปนี้
ผักโขม (Spinach) มีลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และยังมีกลูต้าไธโอนในปริมาณสูง พร้อมกรดอัลฟาไลโปอิคซึ่งเป็นตัวช่วยในการผลิตกลูต้าไธโอนนั่นเอง
บร็อคโคลี่ (Broccoli) ผักอีกชนิดหนึ่งที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและกรดอัลฟาไลโปอิค ซึ่งจะทำหน้าที่เสริมกลูต้าไธโอนให้กับร่างกายได้ดี นอกจากนี้หากอยากเพิ่มความเต่งตึงให้กับผิว มองหน้าแล้วไม่แก่กว่าวัย ต้องไม่พลาดกินบร็อคโคลี่บ่อยๆ เพราะยังมีลูทีนช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวมีความยืดหยุ่น
บีทรูท (Beetroot) หรือ ผักกาดฝรั่ง หรือที่บางคนเรียกว่า ผักกาดแดง เป็นหัวพืชหรือรากที่สะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน ขึ้นชื่อว่าเป็นผักเพื่อสุขภาพที่มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด แถมยังมีสารไลโคปีนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มระดับกลูตาไธโอน ทำให้ผิวละเอียด เรียบเนียน กระชับ ชะลอการเกิดริ้วรอยและยังช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดได้ด้วย
หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) มีสารกลูต้าไธโอนต่อหน่วยบริโภคสูงมาก แถมยังมีลูทีนช่วยในการผลิตคอลลาเจนอีกเพียบ เรียกได้ว่ากินหน่อไม้ฝรั่งไม่ได้แค่ขาวเด้งเท่านั้น แต่ได้ประโยชน์เต็มร้อยจากสารกลูตาไธโอนแน่นอน
มะเขือเทศ (Tomato) เรียกได้ว่าประโยชน์ครบของจริง เพราะจะนำมะเขือเทศไปกินก็สวยและแข็งแรงจากภายในหรือจะนำไปพอกหน้าก็ประทินผิวภายนอกได้ดี นั่นเพราะมะเขือเทศมีสารไลโคปีนสูงและยังประกอบไปด้วยกรดอัลฟาไลโปอิคจึงช่วยผลิตและเพิ่มระดับกลูตาไธโอนในร่างกายได้ไม่แพ้ผัก 4 ชนิดที่กล่าวไปแล้ว
ทั้งนี้ หากอยากรับกลูตาไธโอนจากผักทั้ง 5 ชนิดนี้ไปแบบเต็มๆ ขอแนะนำให้กินแบบสดๆ จะดีที่สุด หรือถ้ากินสดๆ ไม่ไหวจริงๆ อย่าปรุงสุขเกินไป รวมถึงอย่ากินในลักษณะแปรรูป เพราะจะทำให้ระดับกลูตาไธโอนในผักเหล่านี้ลดลง