2 เมนูที่มาพร้อมประโยชน์ของผักสีแดง

วันนี้ KC Fresh มาเจาะจงบอกต่อในเรื่องประโยชน์ของหนึ่งในผักห้าสีให้กับคุณลูกค้าทุกท่านโดยเฉพาะ  แต่ก่อนที่จะไปรู้ว่าผักอะไรบ้างที่เข้าข่ายผักสีแดงที่มีประโยชน์และควรกิน พร้อมส่องเมนูเด็ดๆ เรามารู้ภาพรวมของประโยชน์ผักสีแดงกันก่อนดีไหมคะ

ผักสีแดงเปี่ยมไปด้วย “ไลโคปีน” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิต และดีต่อสุขภาพผิว

นอกจากนี้ ยังมี “เบตาไซซีน” มาช่วยเสริมทัพในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และสาวๆ ไม่ควรพลาดเพราะช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมน ยิ่งไปหลอมรวมกับ “แอนโทไซยานิน” ด้วยแล้ว ทำให้ผักสีแดงมีพลังในการต้านอนุมูลอิสระแบบบวกๆ ทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด จึงลดการอุดตันของเส้นเลือด ยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารอีกด้วย

มาถึงตอนนี้ ก็มารู้กันเลยไหมค่ะว่า ใกล้ตัวเรามีผักสีแดงอะไรที่หากินง่ายมากๆ ถ้าอยากรู้ อ่านต่อเลยค่ะ

  1. มะเขือเทศ (Tomato) : เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า มะเขือเทศนั้นมีด้วยไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด และมีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีโพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิต สามารถกินสดหรือกินสุกหลังผ่านการปรุงอาหารก็ได้
  2. บีทรูท (Beetroot) : สมัยก่อนนู้นคนส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นชื่อ แต่เดี๋ยวนี้ได้ยินมากขึ้น โดยเฉพาะสายคลีนหรือกลุ่มที่ชอบบริโภคน้ำสกัดจากผักผลไม้ทั้งหลาย บีทรูทเป็นพืชหัวที่มีไนเตรตธรรมชาติ ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและความดันโลหิต มีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร รวมถึงเป็นแหล่ง มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
  3. พริกกระดิ่งแดง (Red Bell Pepper) : หลายคนคุ้นเคยดีอยู่แล้วกับกลุ่มพริกกระดิ่ง แต่สำหรับคนที่อยากจัดกลุ่มผักสี พริกกระดิ่งสีแดงนี่แหละที่ต้องมี เพราะเปี่ยมไปด้วยมีวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมาพร้อมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง

เอาละค่ะ ทีนี้มาลองดู 2 เมนูที่ KC Fresh นำมาแนะนำกันไหม ว่าผักสีแดงทำอะไรอร่อยๆ ดี

เมนูง่ายหนักก็ต้อง “สลัดมะเขือเทศและบีทรูท (Tomato and Beetroot Salad)” ที่ใช้วัตถุดิบเล็กน้อย ดังนี้

  • มะเขือเทศเชอรี่ 1 ถ้วย
  • บีทรูทอบ 1 ถ้วย (หั่นเป็นชิ้นเล็ก)
  • ผักสลัดตามชอบ
  • หัวหอมแดง 1/4 ถ้วย (หั่นบาง)
  • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชูบัลซามิก 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือและพริกไทย

ชามพร้อมก็ผสมมะเขือเทศเชอรี่ บีทรูทอบ ผักสลัด และหัวหอมแดงลงไป ส่วนน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชูบัลซามิก เกลือ และพริกไทยผสมลงอีกชามที่เล็กกว่า เสร็จแล้วราดลงบนสลัดชามใหญ่ที่เต็มไปด้วยผัก คลุกเคล้าให้เข้ากันก็ได้สลัดมะเขือเทศและบีทรูทเรียบร้อย

เมนูต่อมาคือ “พาสต้าเพสโต้พริกแดง (Red Pepper Pesto Pasta)” ส่วนผสมมีเพียงพริกแดง 2 ผล (ย่างและปอกเปลือก), กระเทียม 2 กลีบ, ถั่วสน 1/4 ถ้วย, น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย, ชีสพาร์เมซานขูด 1/4 ถ้วย เกลือและพริกไทย และสุดท้ายพาสต้า 200 กรัมที่ต้มจนสุกแล้วพักเอาไว้

จากนั้นใส่พริกแดงย่าง กระเทียม ถั่วสน น้ำมันมะกอก ชีสพาร์เมซาน เกลือ และพริกไทยลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนียนเป็นเพสโต้ก็นำมาคลุกกับพาสต้าจนเข้ากันก็กินได้เลย

เป็นไงคะ ง่ายและได้ประโยชน์สุดๆ ใช่ไหม แต่ถึงจะง่ายแค่ไหน ก็ควรระมัดระวังในการบริโภคที่มากเกินไปเสมอ และอย่าลืมบริโภคอาหารให้หลากหลายเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนนะคะ