“ร็อกเก็ต” ผักกินสดได้รสเผ็ด

แม้กระแสนิยมการกินผักหรือกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพจะมาแรงต่อเนื่องหลายปีมาแล้ว แต่สำหรับ “ร็อกเก็ต”  ผักใบอ่อนสีเขียวสวยเพิ่งจะมาบูมแบบเอาจริงเอาจังเมื่อราวๆ กลางปีที่แล้ว เพราะเป็นผักที่ให้ทั้งคุณค่าทางสารอาหารที่มากมาย และยังช่วยให้เมนูอาหารจานผักของเรามีรสชาติที่ไม่น่าเบื่อ  แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่คุ้นหรือยังไม่พร้อมเปิดใจให้กับผักชนิดนี้ วันนี้ KC Fresh จึงรวมข้อมูลและสรุปมาให้ได้ทำความรู้จักกัน

จริงๆ แล้ว ผักร็อกเก็ต มีอีกชื่อว่าอารูกูล่า (Arugula) เป็นผักใบเขียวชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในโซนยุโรป โดดเด่นที่มีรสชาติเผ็ดปนขมนิดๆ  และมีกลิ่นเฉพาะตัว นิยมใช้ในอาหารอิตาเลียน และกินได้ทั้งสดๆ และนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ 

ผักร็อกเก็ตที่นิยมปลูกมีอยู่ 2 สายพันธุ์คือ Garden Rocket ที่มีขอบใบโค้งกลมเรียบ มีรสชาติเผ็ดร้อนน้อยกว่า และ Wild Rocket ที่มีขอบใบหยักลึก ดูเหมือนซี่เลื่อย และมีรสเผ็ดกว่า แต่สามารถนำมากินได้อร่อยไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของเมนูสลัดรวม โรยบนหน้าพิซซ่า สอดไส้แซนด์วิช หรือทานคู่มะเขือเทศสด มอสซาเรลล่าชีส โหระพา ราดด้วยน้ำสลัดบัลซามิก

และนอกเหนือไปจาก 2 สายพันธุ์ของผักร็อกเก็ตที่นิยมปลูกข้างต้นแล้ว ผักร็อกเก็ตยังมีสายพันธุ์อื่นๆ อีกถึง 6 สายพันธุ์ ได้แก่

  1. พันธุ์ ‘Uber’ เมื่อใบโตเต็มที่จะเป็นแฉกๆ ใกล้เคียงกับใบของ Wild Rocket ให้สีเขียวอมเทาปานกลาง ให้รสชาติเผ็ดที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนกว่า
  2. พันธุ์ ‘Esmee’ ใบสีเขียวอ่อน ก้านใบยาวกว่าพันธุ์อื่น ส่วนใบกระจุกตัวตั้งแต่กลางก้านถึงปลาย ขอบใบหยิกเล็กน้อย
  3. พันธุ์ ‘Pronto’ มีใบเรียวยาว ขอบหยิบสมส่วน มาพร้อมสีเขียวสว่างเกือบเป็นมันเงา ให้รสเผ็ดชัดเจน และกลิ่นค่อนข้างฉุนกว่าพันธุ์อื่น โดยคุณสมบัติที่เด่นชั้นทั้งรส สี และรูปร่างของใบทำให้พันธุ์นี้เป็นที่นิยมในการใช้งานมากเป็นพิเศษ เพราะมองแล้วดึงดูดใจสุดๆ
  4. Wild Rocket พันธุ์ ‘Olive Leaf’ คนไทยนิยมเรียว่า “ไวลด์ร็อกเก็ต ใบมะกอก” เด่นที่ใบเรียวยาว ขอบค่อนข้างเรียบ ให้รสชาติต่างไปจาก Wild Rocket ทั่วไป และแม้รสชาติจะเผ็ดร้อนแต่ก็หอมละมุนไม่ฉุน
  5. Wild Rocket พันธุ์ ‘Giove’ ใบแคบแยกส่วนและเป็นหยัก มีสีเขียวเข้มปานกลาง เป็นพันธุ์ที่แม้จะมีความเผ็ด แต่ก็มีความหวานเล็กๆ ในตัวเอง
  6. Wild Rocket พันธุ์ ‘Wasabi’ อ่านชื่อแล้วคงไม่ต้องบอกต่อว่า รสชาติจะเป็นแบบไหน เพราะหากเคยกินวาซาบิในอาหารญี่ปุ่นมาแล้ว พันธุ์นี้ก็ประมาณนั้น แถมเจ้าพันธุ์นี้ ยังเคยถูกนำไปใช้เพิ่มรสชาติความเป็นญี่ปุ่นแทนวาซาบิต้นตำรับด้วยนะคะ

นอกจากความโดดเด่นในเรื่องรสชาติแล้ว สิ่งที่ทำให้ผักชนิดนี้นิยมมากขึ้นทุกวันเพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีแคลเซียมและสังกะสีมากกว่าผักคะน้า มีธาตุเหล็กและแมกนีเซียมเท่ากัน และมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลตามธรรมชาติน้อยกว่า ทั้งยังมีทั้งวิตามินเอและวิตามินซีสูงที่ช่วยรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย ช่วยดูดซับธาตุเหล็ก และช่วยสร้างคอลลาเจน เป็นแหล่งของกลูโคซิโนเลต ที่มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับในการผลิตเอนไซม์ เป็นแหล่งที่ดีของไฟเบอร์ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และช่วยต่อต้านอินซูลิน อีกทั้งยังมีใยอาหารหลากหลาย ที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ที่เกิดจากการรับประทานอาหารได้อีกด้วย จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมัน