โพรไบโอติกอยู่ที่นี่ หากินง่ายไม่ลำบากชีวิต

บรอกโคลี คือผักในตระกูลกะหล่ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งแหล่งของไฟเบอร์และโพรไบโอติกที่ดี โดยเราสามารถกินบรอกโคลีได้หลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็น การนึ่ง ผัด หรือย่าง ก็ล้วนแล้วแต่ช่วยเติมโพรไบโอติกให้ร่างกายได้

หน่อไม้ฝรั่ง นอกจากมีโพรไบโอติกที่ดีต่อสุขภาพ ยังมีอินูลิน (Inulin) ที่มีส่วนช่วยให้ลำไส้เป็นปกติ แถมยังช่วยลดอาการท้องอืดได้อีกด้วย

แรดิช ถือเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพลำไส้เช่นกัน เนื่องจากแรดิชอุดมไปด้วยไฟเบอร์ รวมถึงยังมีสาร RsPHGPx ที่มีส่วนช่วยทำความสะอาดกระเพาะอาหารและตับ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถช่วยล้างพิษได้

กระเทียม จะเป็นกระเทียมไทยกระเทียมจีนก็เหมือนกัน เพราะกินไปแล้วดีต่อสุขภาพของลำไส้ สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ กระเทียมถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแนะนำเลย

แต่ยังค่ะ ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะนอกจากเราจะนำเมนูผักที่มีโพรไบโอติกมาบอกต่อแล้ว ยังมี 2 เมนูที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้โพรไบโอติกและสามารถทำกินเองได้ไม่ยาก หรือถ้าทำไม่ได้ ก็ยังหาซื้อมากินได้สบายๆ ซึ่งไม่ว่าจะทางไหน แค่กินก็มาพร้อมโพรไบโอติกเช่นกัน นั่นคือ ซุปมิโซะ และกิมจิ ค่ะ

“ซุปมิโซะ”

จริงๆ แล้วเต้าหู้หรือผักโรยไม่ได้มีโพรไบโอติกนะคะ แต่ที่มีคือตัวซอสมิโซะที่นำมาทำซุป เพราะทำมาจากถั่วเหลืองหมักกับเกลือ ทำให้เกิดจุลินทรีย์ชนิดดี แถมมิโซะยังมีเชื้อราชนิดดีอยู่ด้วย ฉะนั้นใครไม่เลิฟรสชาติเปรี้ยว หั่นมาซดซุปมิโซะก็ได้นะคะ

ส่วน “กิมจิ” นั้น  ที่ทำให้เกิดมีโพรไบโอติกหนักๆ อยู่ที่กรรมวิธีการหมักดองให้กลายมาเป็นกิมจิ เพราะนั่นทำให้เกิดโพรไบโอติกที่ดีอย่างกรดแลคติกแอซิดแบคทีเรีย (Lactic acid bacteria : LAB), แลคโตบาซิลัส และจุลินทรีย์ที่ดีต่าง ๆ อีกหลายชนิด ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และดีต่อระบบย่อยอาหารยังไงละค่ะ

เอาละค่ะ สะดวกทางไหน จัดไปอย่ารอช้า กินสิ่งที่มีโพรไบโอติกไว้ ลำไส้ดีใจแน่นอนค่ะ