ยอดฟักแม้วหลบไป “ยอดฟักทอง” มาแล้ว

ยอดฟักทองมีวิตามินเอสูงเท่าๆ กับเนื้อฟักทอง มาพร้อมแคลเซียมและฟอสฟอรัส และยังมีสารคิวเคอร์บิติน (Cucurbitin) ที่ช่วยถ่ายพยาธิ ช่วยให้ร่างกายเย็นลง และมีกรดเอลลาจิก (ellagic) ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง แต่ก่อนที่จะนำยอดฟักทองมาปรุงเป็นเมนูใดๆ ก็ตาม ต้องผ่านกรรมวิธีลอกขนอ่อนๆ ที่ปกคลุมออกก่อนนะคะ

วิธีการลอกยอดฟักทองแบบง่ายๆ คือ  เริ่มต้นจากหาถุงมือมาใส่ก่อนนะคะ เพราะขนที่ปกคลุมจะทำให้คันมือได้

จากนั้นเริ่มลงมือ ตัดหนวดฟักทองทิ้ง และค่อยๆ ลิดใบโตๆ ออก จะเหลือก็ใบอ่อนตรงยอดๆ ก็พอ ตอนที่ตัดหนวด ลิดใบทิ้ง ไม่ต้องเสียดายนะคะ เพราะกินไปก็ไม่อร่อย เผลอๆ อาจทำให้เสียรสชาติโดยรวมได้

เมื่อตัดหนวดและลิดใบทิ้งไปจนเหลือแต่ก้านแล้ว ใช้มีดค่อยๆ ลอกเปลือกที่หุ้มก้านฟักทองออกอย่างใจเย็น จนหมดทั้งก้านก็จะเหลือเนื้อก้านกรอบๆ พร้อมให้นำไปปรุงอาหารทุกเมนูแล้วค่ะ

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นกินยอดฟักทอง จะลองนำไปผัดน้ำมันหอยแบบเดียวกับที่ผัดยอดฟักแม้วก็ได้นะคะ แต่ถ้าใครทำครัวคล่องอยู่แล้ว เมนู “ยอดฟักทองผัดกะปิหมูสับ” คือน่าลองมาก

ส่วนผสมมีแค่ยอดฟักทองอ่อนที่ผ่านการลอกเปลือกและหั่นเตรียมไว้พร้อม พริกจินดาสีแดง กระเทียมไทยสับหรือโขลกแบบหยาบ กะปิ หมูสับติดมัน ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำตาล 

วิธีทำเริ่มจากใส่ซีอิ๊วขาวลงในหมูสับคนให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้เพื่อให้หมูสับมีความนุ่มไม่กระด้างเวลานำไปผัด

เตรียมซอสกะปิ โดยตักกะปิใส่ถ้วยเติมน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อตัดความเค็ม แล้วใส่น้ำเปล่าลงในถ้วย จากนั้นคนน้ำตาลทรายกับกะปิให้ละลายเข้ากันจนเป็นน้ำ

ก่อนจะนำไปผัด ถ้าอยากให้ยอดฟักทองยังสีเขียวสดและหวานกรอบ ขอแนะนำให้ลวกซะก่อน โดยต้มน้ำเดือดใส่เกลือ น้ำตาลทราย ลงไปเล็กน้อยแล้วนำยอดฟักทองไปลวกโดยกดให้ทุกส่วนจมน้ำแล้วปิดฝาหม้อเพียง 1 นาที แล้วตักขึ้นใส่ลงในน้ำเย็นที่เตรียมไว้เพื่อคงความกรอบ แล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปลงกระทะผัดได้เลย ซึ่งขั้นตอนการผัดก็ไม่ยาก นั่นคือ ใส่กระเทียมเจียวลงในน้ำมันพอหอม เติมหมูไปผัด จนหมูสุกเกือบ 100% จึงใส่น้ำกะปิที่ลงไปผัด เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยจนน้ำเดือดงวดดี

ปิดท้ายด้วยการใส่ยอดฟักทองที่ลวกแล้วลงไปผัดคลุกไม่ต้องผัดนาน เพราะจะทำให้ยอดฟักทองที่ลวกไว้จนกรอบแล้วเหนียวไม่มีความอร่อยค่ะ