ปกติแล้วกระเทียมก็อยู่ได้นานอยู่แล้ว ขอเพียงเก็บให้ดี ระวังเรื่องความชื้นก็พอ แต่สำหรับบางบ้าน บางคนที่เก็บตรงไหนของบ้านก็ไม่ไหวจะเก็บจริงๆ ลองแวะมาดู 2 วิธีถนอมกระเทียมแบบที่ฝรั่งนิยมทำกันดูบ้างไหม เพราะนอกจากกระเทียมจะเก็บได้นาน ยังบวกเพิ่มรสชาติความอร่อยแบบไม่รู้ตัว
วิธีถนอมกระเทียมที่ว่า คือการนำกระเทียมลงไปแช่น้ำ!! แต่น้ำที่ว่าไม่ใช่น้ำเปล่าหรอกนะคะ เป็นน้ำมันและไวน์แดงค่ะ
มาเริ่มที่น้ำชนิดที่ 1 อย่าง “น้ำมัน” กันเลยค่ะ
สิ่งที่เราๆ ท่านๆ รู้กันอยู่แล้วคือ กระเทียมมีรสชาติที่เข้มข้นและโดดเด่น การนำน้ำมันมาจับคู่กับกระเทียมเป็นอะไรที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพราะเป็นคู่ที่เข้ากันสุดๆ โดยน้ำมันที่เลือกใช้จะเป็นน้ำมันพืชปกติก็ได้ น้ำมันมะกอกก็ดี หรือบางคนบอกว่า น้ำมันคาโนล่าได้ไหม ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งรสชาติของกระเทียมจากการนำไปจับคู่กับน้ำมันต่างชนิดก็จะต่างกันไปอีกด้วยนะคะ
วิธีการง่ายสุดๆ เริ่มจาก เตรียมสิ่งที่ต้องใช้กันก่อน
ของครบแล้ว นำโหลแก้วมาวาง นำกระเทียมใส่ลงไป ตามด้วยเครื่องเทศที่เตรียมไว้ ปิดท้ายด้วยการเติมน้ำมันลงไป แต่ไม่ต้องเทจนเต็มโหลนะคะ เติมไปเพียงแค่เกือบเต็มโหล ประมาณว่ากะด้วยสายตาแล้วมีพื้นที่เหลือก่อนถึงช่วงปิดฝาสักครึ่งนิ้ว จากนั้นปิดฝาให้แน่น
กระเทียมในน้ำมันที่มีเครื่องเทศแบบนี้ กินได้ทั้งกระเทียม และใช้น้ำมันที่มีกลิ่นหอมๆ ของกระเทียม ขอบอกเลยว่า วิธีนี้เก็บไว้ใช้ได้เป็นปี ขอเพียงวางในที่ๆ ไม่โดนแสงก็พอ
ถนอมกระเทียมในน้ำชนิดที่ 2 คือ “ไวน์แดง”
นอกจากความเข้ากันของไวน์แดงและกระเทียมจะมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว รสชาติที่ได้ยังเข้ากันได้ดีกับอาหารทุกจาน ยิ่งเมื่อกินกับผักดองทั้งหลาย โอ๊ยยยย ดีงามมาก
สิ่งที่ต้องเตรียมไม่ต่างจากการถนอมกระเทียมในน้ำมัน ต่างกันที่ใช้ไวน์แดง หรือน้ำส้มสายชูแทนน้ำมัน นอกจากนี้ กลีบกระเทียมที่ใช้ อาจใส่ลงไปทั้งกลีบ หรือใช้แบบสับหยาบๆ ก็ได้เช่นกัน ส่วนเครื่องเทศที่จะนำไปใส่เสริม หากเป็นไวน์แดงให้ใช้เป็นใบกระวานและพริกแดงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นมากขึ้น แถมกระเทียมในไวน์นี้ เก็บในตู้เย็นไว้กินได้ถึง 4 เดือน
แต่ไม่ว่าจะเป็นกระเทียมในน้ำมันหรือไวน์แดง อย่าลืมเขียนวันที่ผลิตลงไว้ที่ข้างขวดเสมอด้วยนะคะ จะได้รู้ว่า เราสามารถกินได้ถึงเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าเกินกว่าเวลาที่เราแนะนำไป ต่อให้มองด้วยตาแล้วยังรู้สึกว่าสภาพยังดี ก็อย่าฝืนกิน เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพนะคะทุกคน
ข้อมูลจาก https://www.tipsbulletin.com/