ยากจะปฏิเสธ! 5 เทรนด์อาหารปี 2022

• เทรนด์แรกที่มาแน่นอนและเดาไม่ยากคือ “อาหารเพื่อสุขภาพ”

สืบเนื่องจากทั้งโลกต้องเผชิญกับการระบาดของโรค COVID-19 กันมาตั้งแต่ ปี 2019 ส่งผลให้รูปแบบการกินของเราๆ ท่านๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และสุดท้ายกลายมาเป็นตัวกระตุ้นให้หันมาสนใจเรื่องการกินเพื่อสุขภาพมากขึ้น ถึงขนาดมีผลสำรวจแสดงให้เห็นเลยว่า คนไทยกว่า 7 ใน 10 คน ต้องการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยกว่า 53 % ยอมจ่ายมากกว่าเดิมเพื่อให้ได้อาหารสุขภาพคุณภาพดี

อาหารสุขภาพมีให้เลือกมากมาย แต่ไม่ว่าจะกินแบบไหน สิ่งที่เหมือนกันคือ ต้องได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ เสริมภูมิคุ้มกัน และมีราคาไม่แพงเกินไป และจะดีมาก หากอาหารที่เลือกอยู่ในกลุ่มที่เชื่อว่ามีฤทธิ์ในการป้องกันหรือต่อสู้กับเชื้อโรคได้ เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินซี  หรือกลุ่มสมุนไพรไทยเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น กระเทียม กระชาย และขมิ้น

• เทรนด์ต่อมาคือ “อาหารไทยที่ดีต่อใจ”

มีสถิติระบุว่า 73% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาสุขภาพจิตหลังจาก Work From Home และสิ่งหนึ่งที่มาช่วยเยียวยาปัญหานี้คือ การกิน เพราะอาหารไม่ได้เพียงทำให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แต่ยังสัมพันธ์กับอารมณ์ จึงเกิดเป็นลักษณะการกินอาหารตามธาตุเพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจ ซึ่งทฤษฎีการแพทย์แผนไทยระบุว่า ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลมและธาตุไฟ โดยมีธาตุดินเป็นธาตุหลัก และมีธาตุหนึ่งเป็นธาตุใหญ่ เรียกว่า ‘ธาตุเจ้าเรือน’ ร่างกายจะปรับสมดุล จิตใจจะสงบ เมื่อได้กินอาหารที่ตรงกับธาตุเจ้าเรือน จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับสมดุลร่างกายตามธาตุได้

นอกจากนี้ อาหารที่มีความเผ็ด ยังเป็นอีกส่วนที่ดีต่อใจ เพราะช่วยให้ร่างกายได้ปลดปล่อยความเครียดอีกทางหนึ่ง เพราะรสเผ็ดช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ากิน ความเผ็ดร้อนยังช่วยเสริมรสชาติ เพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี ในทางวิทยาศาสตร์นั้น เมื่อลิ้นได้สัมผัสกับรสเผ็ดร้อน จะตอบสนองต่อความร้อนโดยการส่งสัญญาณเตือนไปยังสมอง และสมองก็จะหลั่งฮอร์โมนต่างๆ ออกมาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น โดปามีน เอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข

• เที่ยวลำบากจึงกลายมาเป็น เทรนด์อาหารเชิงท่องเที่ยว

แน่นอนว่าสิ่งที่ตามติดมากับการระบาดของ Covid-19 คือ เงื่อนไขการใช้ชีวิตที่ต้องทำให้การท่องเที่ยวถูกควบคุม จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครต่างคิดถึงการท่องเที่ยว อาหารจึงกลายเป็นตัวช่วยในการเยี่ยวยาความรู้สึกอยากเที่ยวได้ ด้วยการเลือกกินอาหารที่เป็นตัวแทนท้องถิ่นหรือประเทศนั้นๆ ทำให้ผู้ผลิตมากมายเริ่มคิดค้นเมนูที่รองรับความต้องการดังกล่าวของผู้บริโภคที่เพียงได้สัมผัสรสชาติแบบท้องถิ่นก็จะช่วยดึงเอาความทรงจำ ประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของเรากลับขึ้นมาใหม่ แม้ตัวจะไม่ได้ไปเยือน

ซึ่งไม่เพียงเป็นเมนูที่ออเดอร์ได้จากร้านอาหารที่ระบุประเภทของอาหารชัดเจน แต่รวมถึงอาหารในกลุ่มพร้อมกินหรืออาหารกล่อง ที่มีการออกแบบและคิดค้นเมนูใหม่ๆ ให้ล้อไปกับการตอบโจทย์ท่องเที่ยว ทั้งเบนโตะสไตล์ญี่ปุ่น, หมี่ผัดสไตล์ฮ่องกง เป็นต้น

• เทรนด์อาหารหลากหลายทางชีวภาพ ดีต่อสุขภาพ ช่วยธรรมชาติยั่งยืน

ตอกย้ำความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของเทรนด์อาหารสุขภาพด้วยการกินที่ไม่เพียงคิดถึงสุขภาพแต่ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อม  ทำให้ Biodiverse dining หรือ อาหารหลากหลายทางชีวภาพ กำลังจะกลายมาเป็นเทรนด์สำคัญ  โดยเฉพาะการเสาะหาอาหารการกินที่ไม่เคยกินมาก่อน เพื่อให้การบริโภคเกิดความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะจริงๆ แล้ว บนโลกใบนี้ยังมีพืชผักผลไม้อีกหลายต่อหลายชนิดที่เราไม่รู้จัก แต่กลับอุดมไปด้วยสารอาหารโภชนาการสูง

อาหารที่มีหลากหลายทางชีวภาพยังช่วยเพิ่มสารอาหารให้กับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นพืชผักแต่ละสายพันธุ์จะมีสารอาหารรองแตกต่างกัน เช่น วิตามิน แร่ธาตุชนิดต่างๆ เมื่อเรากินอะไรซ้ำๆ เราก็จะได้รับแต่สารอาหารรองเดิมๆ แต่ถ้ากินให้หลากหลายก็จะได้สารอาหารที่ร่างกายต้องการครบถ้วน

 ซึ่งเทรนด์นี้ดีต่อโลกในเชิงความยั่งยืนเพราะกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชแบบหมุนเวียน และยังก่อให้เกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากขึ้น เพราะปรับตัวได้ดีระหว่างพืชและสัตว์ ส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางอาหารได้ เพราะการปลูกพืชหลากหลายสายพันธุ์จะช่วยลดความเสียหายในกรณีที่เกิดโรคระบาด เพราะสายพันธุ์ต่างกัน พันธุกรรมและความทนทานต่อโรคก็ต่างกัน

และสุดท้ายกับเทรนด์ที่ยากจะปฏิเสธว่าอยู่คู่กับเรามามากกว่า 3 ปี นั่นคือ

• เทรนด์อาหารเดลิเวอรี่ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างถาวร โดยเฉพาะการสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่ ที่ช่วยลดเวลาการเดินทาง และช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่อาหารเดลิเวอรี่ จะกลายเป็นคือ วิถีชีวิตใหม่ (นิวนอร์มอล) ในปี 2022 อย่างเต็มตัว