ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารไทยหรือเมนูอาหารฝรั่ง ชื่อของหน่อไม้ฝรั่งสามารถไปปรากฏอยู่ได้ทั้งสิ้น เพราะนอกจากจะกินไม่ยากแล้ว คุณประโยชน์ของหน่อไม้ฝรั่งยังมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
ว่ากันว่า “หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus)” นั้น กำเนิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว โดยชาวกรีกเป็นชนชาติแรกที่ริเริ่มปลูกและค่อยๆ นิยมบริโภคกันในหมู่ชาวกรีก โรมันและอียิปต์โบราณ จากนั้นทางฝั่งประเทศแถบยุโรปและแอฟริกาก็เริ่มนิยมกินตามกันมา และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
เพราะนอกจากความหวาน กรอบและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่พ่วงคุณค่าทางอาหารสูงมากๆ หน่อไม้ฝรั่งยังเป็นผักที่ให้แคลอรีต่ำที่ให้วิตามินและสารอาหารดีๆ ทั้งวิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค และกรดโฟลิก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของแอสพาราจีน กรดอะมิโนที่มีส่วนช่วยในพัฒนาการทางสมองของเด็กอีกด้วย โดยนิยมนำไปปรุงอาหารทั้งผัด ย่าง หรือแม้แต่ทำซุปร้อนๆ กินช่วงอากาศหนาวๆ
เคล็ดลับการเลือกหน่อไม้ฝรั่งก็แสนจะจำง่ายคือ ให้เลือกต้นที่มีความแน่น เต่งๆ สีเขียวสด ส่วนปลายแห้งและไม่บานออก หากลองบีบทั้งกำเบาๆ ถ้ามีเสียงดังเอี๊ยดแสดงว่ายังสดอยู่ นอกจากนี้ถ้ามีต้นอวบๆ กับต้นผอมๆ มากองให้เลือกตรงหน้า จำไว้เลยนะคะว่า ถ้าอยากกินต้นอ่อนๆ ให้เลือกต้นผอม แต่ถ้าอยากได้ต้นหวานกรอบให้เลือกต้นอวบ ส่วนว่าดูยังไงว่าต้นไหนแก่เกินไป ให้สังเกตต้องโคนต้นว่า หากมีเสี้ยนยาวๆ นั่นแสดงว่าต้นที่ว่าแก่เกินไป
หน่อไม้ฝรั่งกับประโยชน์เด็ดๆ
คุณค่าอาหารของหน่อไม้ฝรั่ง ปริมาณ 100 กรัม
- พลังงาน 20 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 3.38 กรัม
- โปรตีน 2.20 กรัม
- ไขมันทั้งหมด 0.12 กรัม
- คอเลสเตอรอล 0 มิลลิกรัม
- ไฟเบอร์ 2.1 กรัม
- โฟเลต 52 ไมโครกรัม
- ไนอะซิน 0.978 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.141 มิลลิกรัม
- ไทอะมิน 0.143 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 5.6 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 756 IU
- วิตามินอี 1.13 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 41.6 ไมโครกรัม
- โซเดียม 2 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 202 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 24 มิลลิกรัม
- ทองแดง 0.189 มิลลิกรัม
- เหล็ก 1.14 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 14 มิลลิกรัม
- แมงกานีส 0.158 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 52 มิลลิกรัม
- เซเลเนียม 2.3 ไมโครกรัม
- สังกะสี 0.54 มิลลิกรัม