เมนูน้ำพริกอยู่คู่ครัวไทยมายาวนานมากๆ เลยนะคะ และจากข้อมูลที่ KC Fresh หามาได้ ว่ากันว่า “น้ำพริก” เป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมนูที่ปรุงมาจากการนำของที่มีอยู่ในครัวอย่างพริก กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศต่างๆ มาโขลกรวมกันในครกแล้วปรุงรสชาติ ซึ่งหากนับไปนับมาแล้ว เคยมีการระบุว่า ประเทศไทยมีน้ำพริกมากกว่า 500 เมนู แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ราวๆ 200 เมนู ซึ่งจะหากินได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
เหตุที่ทำให้น้ำพริกไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว คือการแบ่งประเภทตามลักษณะของพริกที่นำมาโขลก รวมถึงยังแบ่งได้ตามลักษณะของน้ำพริกที่ออกมาคือแบบน้ำพริกแห้งและน้ำพริกที่มีน้ำขลุกขลิก ไหนจะมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์อย่างเนื้อปลาชนิดต่างๆ กุ้งแห้ง กุ้งสด โดยในระยะหลังๆ ที่เมนูคลีนมาแรงมากๆ ก็มีการประยุกต์เอาเนื้อเฉพาะส่วนของเนื้อสัตว์บางประเภทมาปรุงเป็นเมนูน้ำพริก เช่นเมนูน้ำพริกอกไก่ น้ำพริกปลาทูน่า เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกชนิดใด สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ น้ำพริกทุกยุคสมัยต้องมาพร้อม “ผักจิ้มน้ำพริก”
ผักจิ้มน้ำพริกที่คุ้นๆ กันมาส่วนใหญ่คือ แตงกวา ถั่วฝักยาว ถั่วพู มะเขือชนิดต่างๆ แต่ถ้าใครเบื่อแล้ว อยากลองทางเลือกใหม่ๆ KC Fresh มีผัก 8 ชนิดมาแนะนำให้ลอง
กระเจี๊ยบเขียว : อีกหนึ่งผักที่เหมาะจะจิ้มน้ำพริก ซึ่งนับวันความนิยมยิ่งเพิ่มขึ้น แต่ที่หลายคนยังลังเลอาจเพราะเมือกของกระเจี๊ยบที่ต้องมีวิธีทำกันหน่อย ซึ่ง KC Fresh หามาฝาก 2 วิธีคือ ลวกในน้ำร้อน โดยใส่เกลือลงไปในน้ำเล็กๆ พอน้ำเดือดก็นำกระเจี๊ยบเขียวลงไปลวกเร็วๆ พอสุกแล้วนำขึ้น กับอีกวิธีคือ นำไปเผาให้สุกก่อนนำมาล้างน้ำ จากนั้นผึ่งให้สะเด็ดน้ำแล้วจัดเสิร์ฟคู่น้ำพริก ซึ่งของแถมที่ได้จากการเผาก่อนคือ กระเจี๊ยบจะมีกลิ่นหอมน่ากินมากขึ้น
หน่อไม้ฝรั่งเขียว : ใครว่าหน่อไม้ฝรั่งทำได้แค่เมนูผัดหรือย่างกินเคียงเมนูอาหารฝรั่งเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วถ้านำหน่อไม้ฝรั่งมาลวกพอสุก ก็สามารถนำมากินเป็นผักจิ้มน้ำพริกได้อร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งบางคนอาจเลือกกินกับน้ำพริกแค่ส่วนยอดอ่อนๆ ส่วนที่เหลือนำไปปรุงเป็นเมนูอื่นก็ยังได้
เคลใบหยัก พันธุ์ Curly Kale : นอกจากจะขึ้นชื่อว่าสารอาหารเพียบแล้ว เคลสายพันธุ์นี้ยังมีความกรอบ เคี้ยวเพลินอยู่ตัวในระดับที่ใบไม่หนาเท่ากับเคลใบตรง พันธุ์ Lacinato โดยวิธีการกินที่ KC Fresh ขอแนะนำคือ กินคล้ายๆ กับเวลากินเนื้อย่างเกาหลี คือเด็ดใบออกมาส่วนหนึ่ง ตักน้ำพริกลงไปบนใบแล้วเอาเข้าปาก รับรองได้ว่าคุณจะได้รชาติน้ำพริกพร้อมความกรอบอร่อยของเคลไปพร้อมๆ กัน
ผักฉ่อย : อร่อยคู่กับน้ำพริกได้ไม่แพ้ใครก็ผักฉ่อยนี่ล่ะค่ะ แถมยังให้คุณค่าอาหารมากมายทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอและซี วิธีการไม่ยากเลยค่ะ แค่นำผักฉ่อยมาลวกในน้ำเดือดที่เติมเกลือลงไปนิดเล็กน้อย จากนั้นนำขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด จัดเสิร์ฟคู่น้ำพริก ความสดและกรอบจะชวนให้หยิบกินจนน้ำพริกหมดถ้วยแน่ๆ
ยอดคะน้า : เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดผักจิ้มน้ำพริกอีกชนิดหนึ่งที่ KC Fresh อยากให้คุณได้ลอง เพราะความเด่นของยอดคะน้าคือความอ่อนของใบที่กำลังรอการจะเติบโตเป็นต้นคะน้า ตรงส่วนยอดนี้จึงเป็นส่วนที่นิยมนำมากินกับน้ำพริกมากที่สุด เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเสี้ยนคะน้า และไม่ต้องลอกผิวนอกออกก่อนกิน
ผักคอส : หนึ่งในผักสลัดที่แค่ซื้อมาก็กินสดๆ ได้เลย บางคนบอกว่าเวลากินผักคอสกับน้ำพริกแบบไทยๆ ให้อารมณ์เหมือนการอาหารฟิวชั่นที่พาเอาวัฒนธรรมสองฝั่งคือโลกตะวันออกมาพบโลกตะวันตก เพราะความสดของผักคอสที่นิยมกินในเมนูซีซ่าสลัดเข้ากันได้ดีกับน้ำพริกสุดๆ โดยเฉพาะน้ำพริกอ่อง ไม่เชื่อต้องลอง
ปวยเล้ง : ถือว่าเป็นผักที่ทำได้หลายเมนู ไม่ว่าจะต้มจืด ผัดน้ำมันหอย หรือสุกี้ แต่ที่อยากให้ลองคือการกินปวยเล็งกับเมนูน้ำพริก เพราะสามารถกินได้ทั้งแบบลวกสุกและกินสดๆ แถมปวยเล้งยังมีประโยชน์ในเรื่องการขับถ่าย หากใครกำลังเผชิญกับปัญหาท้องผูกละก็ ปวยเล้งช่วยได้
ผักฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก : ความสด กรอบและฉ่ำน้ำที่อยู่ภายใน คือหัวใจของการนำผักชนิดนี้ ยิ่งถ้าเป็นน้ำพริกที่รสชาติค่อนข้างเผ็ดล่ะก็ ผักฟิลเลย์ไอซ์เบิร์กสดๆ จะเป็นอีกทางเลือกของผู้ร่วมโต๊ะอาหารที่กินเผ็ดได้น้อย เพราะยังได้ความอร่อยจากน้ำพริกโดยมีผักชนิดนี้ช่วยทำให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนลดลงได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับผัก 8 ชนิดที่ KC Fresh นำมาฝากและอยากให้คุณได้ลองนำไปกินคู่กับน้ำพริกถ้วยโปรด ชอบชนิดไหนลองกินกันดูไม่เสียหาย แต่ถ้าไม่อยากลงตลาดเสาะหาให้วุ่นวาย ออเดอร์กับ KC Fresh ได้สบายๆ แถมเรายังมี “ชุดผักจิ้มน้ำพริก” ที่จัดไว้แล้วให้กับมื้ออาหารของคุณ โดยในหนึ่งชุดจะมีทั้งแตงกวา มะระขี้นก มะเขือเปราะ ข้าวโพดอ่อน ผักฉ่อย ถั่วฝักยาว ชอบแบบไหน ออเดอร์กันได้เลยค่ะ