“คนเป็นโรคไตต้องกินจืด ต้องลดเค็ม” พอได้ยินแบบนี้ หลายคนอาจคิดว่า เมนูปลอดภัยต้องเป็นผักสินะ คงต้องบอกว่าใช่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผู้ป่วยโรคไตกินผักได้ แต่เพียงบางกลุ่มเท่านั้น เพราะมีผักบางชนิดที่ต้องระวังในการบริโภค นั่นคือ ผักที่มีโพแทสเซียมสูง เพราะจะส่งผลให้เกิดภาวะโพแทสเซียมเกิน (Hyperkalemia) ทำให้ไตต้องรับภาระหนักในการขับแร่ธาตุชนิดนี้ โดยผู้ป่วยโรคไตระยะที่ 4-5 ไม่ควรได้รับโพแทสเซียมเกิน 1,500 มิลลิกรัม ต่อวัน (หรือผู้ป่วยมีค่าโพแทสเซียมในเลือดสูง)
แล้วผักอะไรบ้างที่กินได้ และกินไม่ได้?
ก่อนจะไปรู้ว่า ผักและผลไม้ชนิดไหนที่คนเป็นโรคไตกินได้บ้าง KC Fresh อยากให้ทำความเข้าใจก่อนว่า แม้จะเป็นโรคไตที่ต้องระวังเรื่องการกิน แต่นี่ไม่ใช่การอดอาหารโดยเด็ดขาดซึ่งข้อมูลจากฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ระบุไว้ว่า ผู้ป่วยควรเลือกบริโภคผักและผลไม้ให้เหมาะสมทั้งเรื่องชนิดและปริมาณ เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณโพแทสเซียมให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่มีผลกระทบต่อโรค
ผักที่กินได้ คือ ผักในกลุ่มสีเขียวอ่อนหรือสีขาว จะเป็นผักที่มีโพแทสเซียมต่ำ และควรนำไปต้มให้สุกหรือทำให้สุกก่อนเสมอ เพื่อให้ความร้อนช่วยลดปริมาณโพแทสเซียมในผักอีกทางหนึ่ง โดยแบ่งได้ดังนี้
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของปริมาณโพแทสเซียมที่ต้องระวังแล้ว ยังต้องดูแลและควบคุมปริมาณการกินอาหารที่มีสารอาหารบางประเภทเพิ่มเติมให้ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อไม่ให้เนื้อไตถูกทำลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
อาจจะดูว่ายาก และขัดต่อความรู้สึและความเคยชินที่การใช้ชีวิตที่ผ่านมา แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ผู้ป่วยโรคไตไม่ว่าจะอยู่ในระยะไหน ควรดูแลตัวเองและเข้มงวดต่อการกินเสมอ เพื่อให้ไตกลับมามีคุณภาพที่ดี ซึ่งจะส่งผลถึงสุขภาพโดยรวมของร่างกายที่จะดีตามไปด้วย
และที่สำคัญ หากคุณรู้ตัวว่าเป็นโรคไต หรือมีคนที่รู้จักเป็นโรคนี้ ขอให้ไปรับคำปรึกษาจากนักโภชนาการก่อนจัดเมนูอาหารเสมอนะคะ เพราะนักโภชนาการจะมีความรู้ที่ถูกต้องและช่วยดูแลเรื่องนี้ได้อย่างแม่นยำค่ะ
สู้ๆ นะคะทุกคน
ข้อมูล : http://www.siphhospital.com/, https://vibhavadi.com/, https://www.honestdocs.co/