วันนี้เราก็เลยหาทางออกมาให้ โดยไปรวบรวมข้อมูลเคล็ดลับเด็ดที่คนรักสุขภาพทำน้ำผักดริ๊งใช้เพื่อกลบกลิ่นเหม็นเขียวมาฝากกัน
ความลับที่อยากบอกอย่างแรกคือ “ความเย็นช่วยได้” คือก่อนที่จะนำผักมาปั่นให้นำผักไปแช่น้ำก่อน จากนั้นปั่นก็น้ำเย็นหรือน้ำแข็ง ความเย็นจะช่วยลดความเหม็นเขียวได้ แต่ถ้าไม่อยากกินน้ำผักแบบเย็นก็ลองใช้นี่ค่ะ “ให้ผักหรือผลไม้ชนิดอื่นช่วยกลบกลิ่น” ไม่ว่าจะเป็น...
- เลมอน : ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าเลม่อนไม่กี่หยดแต่ช่วยตัดรสความขมของผักและลดความเหม็นเขียวได้จนแทบไม่รู้สึก ทำให้การดื่นน้ำผักง่ายขึ้นเยอะ
- แอปเปิ้ล : ใครว่าน้ำผักจะใส่ผลไม้ไม่ได้ เพราะความหอมและความหวานจากแอปเปิ้ลนั้นนอกจากจะช่วยกลบกลิ่นเหม็นเขียวได้แล้ว ยังได้ประโยชน์จากไฟเบอร์ วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มาพร้อมน้ำตาลและแคลอรี่น้อยมากๆ
- ซูกินี : ซูกินีทำให้น้ำผักมีรสชาติหวานนุ่มขึ้น และยังได้วิตามินซี โพแทสเซียม และคลอโรฟิลล์
- ผักกาด : ความที่เป็นผักไม่มีความขมและกลิ่นไม่แรง จึงช่วยลดความเหม็นเขียวให้เบาบางลงได้ ซึ่งผลพลอยได้จากการนำผักกาดมาปั่นด้วยจะให้ความหวานแบบธรรมชาติ มาพร้อมโปรตีน โอเมก้า 3 และวิตามินซี ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมๆ กับช่วยลดความดันเลือดด้วย
- แครอท : นอกจากจะให้สีส้มสวยสดดูน่ากินแล้ว แครอทยังช่วยให้น้ำผักที่มีกลิ่นเหม็นเขียวหวานหอมกลมกล่อมขึ้นได้ นั่นทำให้สามารถกินง่ายมากกว่าเดิม
- ยี่หร่าสด : อย่าเพิ่งตกใจว่ายี่หร่าที่มีกลิ่นเฉพาะตัวจะทำให้ยิ่งเหม็นเขียว ขอบอกว่าไม่ใช่เลย เพราะยี่หร่าคือสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่หากนำมาเป็นส่วนผสมในน้ำผักจะทำให้ความเหม็นเขียวลดลงได้ แถมรสชาติน้ำผักยังกลมกล่อมขึ้นด้วย ไม่เชื่อลองดูค่ะ
- แตงกวา : แตงกวาไม่เพียงแต่มีส่วนประกอบของน้ำเยอะจึงไปเจือกลิ่นเหม็นเขียวให้เบาลงได้ แถมยังให้รสหวานหน่อยๆ เพิ่มลงไปอีกด้วย ส่วนในเรื่องคุณประโยชน์ไม่ต้องพูดถึง ได้เพียบ โดยเฉพาะเรื่อง การลดกลิ่นปาก บำรุงไต บำรุงข้อกระดูก ควบคุมความดันเลือด ป้องกันมะเร็งและเบาหวาน ทั้งยังช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
- ขิง : พืชสมุนไพรอีกชนิดของบ้านเราที่ต้องบอกเลยว่า เมื่อนำมาร่วมตัวกับน้ำผักเมื่อไหร่รสชาติเข้ากันได้ดีสุดๆ เพราะนอกจากรสชาติความเผ็ดร้อนในแบบของขิงแล้ว ความหอมของขิงยังช่วยดับกลิ่นเหม็นเขียวของผักได้อย่างราบ