พลาสติกที่ใช้กับผักและผลไม้สดมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ความสำคัญจึงอยู่ที่คุณได้เลือกใช้ให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพหรือเปล่า ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว พลาสติกที่นิยมนำมาใช้ทำฟิล์มยืดหรือพลาสติกแร็ปสำหรับห่ออาหาร รวมถึงผัก มีอยู่ 3 ประเภท คือ
- PE (Polyethylene) เป็นพลาสติกที่นิยมใช้กันมากที่สุด มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ ไอน้ำซึมผ่านได้น้อย แต่ก๊าซสามารถซึมผ่านได้ดี จึงเหมาะกับการห่อผักและผลไม้สด เพื่อรักษาความสดใหม่
- LDPE (Low-Density Polyethylene) เป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นต่ำ มีความยืดหยุ่น โปร่งแสง แต่ไม่ค่อยทนความร้อน จึงมักใช้ทำถุงพลาสติกและฟิล์มแร็ปห่ออาหาร
- PVC (Polyvinyl Chloride) ในอดีตมีการใช้ PVC ทำฟิล์มแร็ป แต่ปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว เนื่องจากมีสารเติมแต่งที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ปัจจุบันมีการนำ PE และ LDPE มาใช้กับผักและผลไม้สด แต่ที่ได้รับความนิยมมากๆ ได้แก่ พลาสติก PE เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมหลายประการ ดังนี้
- มีความสามารถในการซึมผ่านของออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผักและผลไม้สด เพราะผักผลไม้ยังคงมีการหายใจหลังการเก็บเกี่ยว การที่ก๊าซสามารถไหลผ่านได้จะช่วยรักษาสมดุลของก๊าซภายในบรรจุภัณฑ์ จึงช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผักผลไม้
- สามารถป้องกันความชื้นได้ จึงช่วยลดการสูญเสียน้ำของผักผลไม้ ทำให้คงความสดและลดการเหี่ยวเฉา
- เป็นพลาสติกที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยสำหรับการสัมผัสอาหารโดยตรง จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมีอันตรายปนเปื้อนสู่อาหาร
- มีความยืดหยุ่น ทำให้สามารถห่อหุ้มผักผลไม้ได้ง่าย และแนบสนิทกับพื้นผิว ช่วยป้องกันการกระแทกและรักษารูปทรงของผักผลไม้
- ช่วยให้สินค้าได้รับความสวยงาม เนื่องจาก PE มีความใส ทำให้มองเห็นผักผลไม้ภายในได้ชัดเจน ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าของสินค้า
ทั้งนี้ แม้พลาสติก PE จะช่วยรักษาความสดของผักผลไม้ได้ แต่ผู้บริโภคก็ควรบริโภคผักผลไม้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน และจำไว้เสมอว่าการใช้พลาสติก PE เป็นเพียงวิธีการถนอมอาหารเบื้องต้น ควรใช้วิธีการถนอมอาหารอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การแช่เย็นในอุณหภูมิที่เหมาะสม และไม่ลืมเลือกใช้พลาสติก PE ที่มีคุณภาพดี และมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของสินค้าและผู้บริโภคนะคะ