มีคนเคยบอกว่า กินผักต้องกินสดๆ ถึงจะได้รับประโยชน์ครบถ้วน แต่แหม...ผักบางชนิดและในบางโอกาสก็สดไม่ไหว เพราะบางคนทนกลิ่นเขียวไม่ได้ บางคนบอกว่าเคี้ยวยาก และเมื่อต้องคุมน้ำหนัก นอกจากจะต้องคัดชนิดผักที่กิน ยังต้องผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้องอีกด้วย เอ...แล้วแบบนี้ จะกินผักอะไรให้สุขภาพดี พร้อมเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า น้ำหนักต้องคงที่ล่ะ
ก่อนอื่นขอบอกว่า การทานผักต้มเป็นวิธีที่ดีในการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน เพราะผักต้มมีแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และยังช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย
สำหรับผักที่ควรกินช่วงลดน้ำหนักจะมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
ถ้าเป็น ผักใบเขียว ก็จะมี ผักโขม, บร็อคโคลี่, กะหล่ำปลี, คะน้า, ผักบุ้ง เพราะผักเหล่านี้ให้วิตามินและแร่ธาตุสูง แถมยังช่วยลดคอเลสเตอรอล และมีใยอาหารสูง แต่ถ้าออกแนวเป็นลูกเป็นหัว ต้อง ฟักทองและแครอท เพราะสองชนิดนี้มีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตา และมีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน
นอกเหนือจากนี้คือ หน่อไม้ฝรั่ง, เห็ด, มะเขือเทศ, แตงกวา เพราะมีแคลอรี่ต่ำ ให้วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย
ส่วนว่า เมื่อได้ผักที่ควรกินแล้ว จะต้มผักแบบไหนให้พอดีกิน และคงประโยชน์ไว้มากที่สุด เรามีเทคนิคง่ายๆ มาบอก ดังนี้
ต้มในน้ำเดือด เพื่อให้ผักสุกเร็วและคงคุณค่าทางอาหาร และไม่ควรต้มนานเกินไป เพราะจะทำให้ผักเละและสูญเสียวิตามิน ที่สำคัญอย่าลืมเติมเกลือเล็กน้อยตอนต้ม เพราะช่วยให้ผักมีรสชาติอร่อยขึ้น เมื่อต้มสุกแล้ว รีบตักจากหม้อต้มไปแช่ในน้ำเย็น เพื่อรักษาสีสันของผักให้สดใส และทำให้ผักกรอบค่ะ
หลังจากนั้นให้เก็บผักต้มไว้ในภาชนะปิดสนิท โดยต้มครั้งหนึ่งเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2-3 วัน อย่าเกินกว่านี้ เพราะรสชาติและคุณค่าทางอาหารจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าอยากเก็บไว้นานขึ้น สามารถนำผักต้มไปแช่แข็งได้ แต่สิ่งที่ต้องรู้คือ รสชาติและเนื้อสัมผัสอาจเปลี่ยนแปลงไป
ในการกินผักต้ม ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร สามารถปรุงรสชาติให้อร่อยได้ ด้วยสมุนไพรอย่างขิง ตะไคร้ หรือใช้เครื่องปรุงรสต่ำโซเดียม อาจราดด้วยน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชู หรือทำเป็นซุปผักรวม โดยต้มในน้ำซุปใส ปรุงรสด้วยสมุนไพรต่างๆ
สุดท้ายนี้ อย่าลืมกินผักต้มรวมกับโปรตีน เช่น ไก่ต้ม ปลา หรือถั่วเสมอ รวมไปถึงถ้ารู้สึกหิวระหว่างมื้อ ก็สามารถทานผักต้มเป็นอาหารว่างได้นะคะ