“อะโวคาโด” จัดว่าเป็นผลไม้ยอดฮิตที่ตอนนี้ใครๆ ก็หันมากิน และไม่ได้กินแบบสดๆ อย่างเดียว มีการนำไปประยุกต์เป็นเมนูต่างๆ มากมาย ซึ่งครั้งหนึ่ง KC Fresh เคยแนะนำไปบ้างแล้วในบทความ ““ซอสไก่อโวคาโด้” ซอสสารพัดประโยชน์ทำง่ายใช้ได้หลายเมนู” แต่สำหรับวันนี้ เรารวม 5 คำถามยอดฮิตที่มักจะมีคนถามเราบ่อยๆ เกี่ยวกับอะโวคาโดมาฝากกันค่ะ
ตกลงว่า “อะโวคาโด” คือ ผักหรือผลไม้?
อาจจะเป็นคำถามแปลกๆ ที่ไม่น่าถาม แต่คำถามนี้มีจริงๆ นะคะ เพราะบางคนยังสับสนในประเด็นนี้แบบเดียวกับที่สงสัยว่ามะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ เฉลยตรงนี้ค่ะ อะโวคาโด มีอีกชื่อว่า ‘ลูกเนย’ จัดเป็น “ผลไม้” ค่ะ มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก มีหลายสายพันธุ์ให้เลือก แต่ส่วนใหญ่มักเป็นพันธุ์ที่มีผลทรงกลมรีคล้ายลูกแพร์ เปลือกหนา มีเมล็ดกลมใหญ่เมล็ดเดียวตรงกลาง เนื้อในมีสีขาวอมเหลืองหรือเขียวอมเหลืองขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รสชาติจืดๆ มันๆ คล้ายเนย ก็เลยเป็นที่มาว่าลูกเนยยังไงละค่ะ
จะรู้ได้ยังไงว่า “อะโวคาโด” ผลไหนสุกหรือดิบ
ยิ่งเป็นมือใหม่ยิ่งงงมากๆ เพราะกะไม่ถูก ดูไม่ออกจริงๆ ว่าลูกไหนสุกหรือดิบ เพราะบางพันธุ์เวลาสุกก็จะออกเข้มขึ้น บางพันธุ์เปลือกยังเขียวๆ เอาเป็นว่า เราจะสรุปแบบทั่วไปก่อน
หากเป็นอะโวคาโดพันธุ์ลูกรีๆ ถ้าเปลือกสีเขียวสด คือยังไม่สุก ไม่พร้อมกิน พอเปลือกสีน้ำตาลอมเขียว คือค่อนข้างสุก เนื้อแน่น อยู่ตัว หั่นง่าย ถ้ายังไม่กินก็นำไปแช่เย็นเก็บไว้ก่อนจะยืดเวลาความสุกออกไปได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ เจอลูกที่เปลือกสีน้ำตาลเข้มอมม่วงหรือดำ รู้ได้เลยว่าสุกได้ที่แล้ว เนื้อนิ่ม บดง่าย ถ้าเก็บต่อไปเนื้อจะยิ่งเละ
แต่ถ้าไปซื้อพันธุ์ลูกกลมๆ โตๆ ที่กำลังเป็นที่นิยม และหาซื้อง่าย รวมถึงราคาไม่แรงเท่าลูกรีๆ ล่ะก็ สีเปลือกจะไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ สิ่งที่ทำได้คือ ใช้นิ้วมือบีบเบาๆ ดูค่ะ หรือถ้านิ้วกดลงไปแล้วนิ่มๆ บุ๋มเล็กน้อยแสดงว่าพร้อมกินแล้ว ถ้ากดไม่ลงแสดงว่ายังไม่สุก
อยากกินไวๆ ทำอย่างไรดี
บางคนอยากกินมากๆ แต่ตรงหน้ามีแต่ลูกเขียวๆ เนื้อแข็งๆ จะทำยังไงให้ได้กินเร็วๆ ง่ายมากๆ ค่ะ แค่เอาอะโวคาโดใส่ในถุงกระดาษรวมกับแอบเปิ้ลหรือกล้วยวางไว้บริเวณที่อากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงเกิน 25 องศาเซลเซียส ก๊าสเอทิลีน (Ethylene) จากกล้วยและแอบเปิ้ลจะไปกระตุ้มให้ให้อะโวคาโดสุกเร็วขึ้น
เล็งผิด! ผ่าแล้วยังไม่สุก ต้องทำอย่างไร
KC Fresh เชื่อว่าหลายคนเคยพลาดผ่าอะโวคาโดตอนยังไม่สุกมาบ้างล่ะ ซึ่งพอผ่าแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อ ขอบอกว่าอย่าได้โยนทิ้งให้เสียของ เพราะมีวิธีที่จะทำให้สุกค่ะ
ลองเอาน้ำมะนาวทาที่เนื้ออะโวคาโดแล้วประกบเข้าด้วยกันตามเดิม จากนั้นห่อด้วยพลาสติกแรปนำไปแช่ในตู้เย็น 2-3 วัน จึงเอาออกมาเปิดดูว่าสุกรึยัง แต่ถ้าไม่มีพลาสติกแรปก็นำไปแช่ในตู้เย็นเหมือนเดิมและหมั่นเช็คทุก 2-3 วันว่าสุกได้ที่รึยัง
กินไม่หมด จะเก็บยังไงให้เนื้อไม่เปลี่ยนสี
ซื้อมาลูกใหญ่มาก กินไปแค่ครึ่งลูกก็อิ่มแล้ว อยากกินต่อแต่เนื้อเป็นสีน้ำตาลไม่สวยเลย นั่นเพราะเนื้ออะโวคาโดสัมผัสอากาศนานเกินไป จึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลๆ เพราะปฏิกิริยาของเอมไซน์นั่นเอง ฉะนั้นก่อนเก็บให้บีบน้ำมะนาวลงบนเนื้ออะโวคาโดเพื่อป้องกันไม่ให้ดำ หรือจะใช้น้ำมันพืชทาบางๆ ให้ทั่ว แล้วห่อด้วยพลาสติกแรปหรือฟลอยส์ น้ำมันจะเป็นตัวกั้นให้อากาศทำปฏิกิริยากับเนื้ออะโวคาโดแล้วเปลี่ยนแบบเดียวกับน้ำมันมะนาว